วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

บทนำ สู่คำว่า "ควาย"



บทนำ 

สู่คำว่า 
"ควาย" 



ก่อนที่คุณจะเกิดมาเป็นคนแล้วพัฒนาตัวตนไปสู่การเป็น "ควาย" ผมจะพาคุณย้อนกลับไปสู่รังไข่ อันเป็นจุดกำเนิดแรกเริ่มของเราสองคน

ณ รังไข่ อันเป็นสถานที่ๆอึดอัด คับแคบ ไม่มีพื้นที่ให้หยัดยืนและหายใจ หนำซ้ำ ณ พื้นที่แห่งนี้ หาได้มีสถานบันเทิงเริงรมย์ใดๆไม่ ไม่มีผับไม่มีเทค ไม่มีสาวนั่งดริ้งค์ ไม่มีแอลกอฮอล์ มันช่างเป็นสถานที่ที่เงียบเหงา เปล่าเปลี่ยว และเดียวดายยิ่งนัก ไม่เพียงแค่นั้น อุณหภูมิที่อยู่ภายในพื้นที่แห่งนี้ ยังร้อน อบอ้าว ราวกับอยู่ในเตาอบเตาเผา ยังไงยังงั้น มันทำให้พวกเราชาวคนทั้งหลายทุกข์ทรมานเหลือเกิน แต่กระนั้นพวกเราก็ยังดิ้นรนขวานขวาย หาทางมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้จนได้ ทั้งๆที่คู่ต่อสู้ของพวกเรานั้นมากจนไม่รู้ว่าจะนับยังไงไหว พวกเราต่างก็พากันยื้อแย่ง เบียดเสียดกันจนได้รับชัยชนะมาในที่สุด...หารู้ไม่ว่า ณ รังไข่แห่งนี้นั้น ก็ไม่ใช่สถานที่อันน่าอภิรมย์ 

แต่พวกเราก็ยังไม่ย่อท้อใช้ความอดทน อดกลั้น ที่ติดตัวมาตั้งแต่ก่อนจุติแรกเกิด ฝ่าฟันความมืดมิด ความร้อนอบอ้าว อัดแน่นไปด้วยสิ่งสกปรก ด้วยหวังว่า จะเจอปากทางอันเป็นแสงสว่างรอคอยเราอยู่เบื้องหน้า...ซึ่งมันก็สำเร็จ ในที่สุดพวกเราก็ออกมาลืมตาดูโลกกันอย่างเต็มภาคภูมิ เราได้พบกับแสงสว่างที่พวกเรารอคอยมานานแสนนาน

แต่เจ้ากรรม!
บนโลกที่เต็มไปด้วยแสงสว่างนี้ กับไม่ได้สวยงามอย่างที่พวกเราได้คิดเอาไว้ มันเต็มไปด้วยผู้คนที่มีกิเลส มักง่ายและเห็นแก่ตัว แถมพวกเรายังพากันมีกิเลสเพิ่มขึ้นมาอีก ทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้สุขสบายอย่างที่คิดเอาไว้ ต่างฝ่ายต่างก็ต่อสู้ดิ้นรนกันแบบไม่มีใครยอมใคร  

ไม่เพียงแค่นั้น...ธาตุ 4 อันประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่พวกเราพกติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเกิด บวกกับธาตุ 4 ที่ประกอบขึ้นมาเป็นสิ่งแวดล้อมให้พวกเราได้อยู่อาศัย ก็จับมือถือแขนกันอย่างสามัคคี สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเรามานักต่อนัก แบบไม่มีอาการเตือนกันล่วงหน้าเลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้บีบบังคับให้พวกเราต้องผลิตกิเลสกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเกราะป้องกันพวกคนเห็นแก่ตัว โดยหารู้ไม่ว่า กิเลสที่อยู่ในใจของพวกเรานั้น ก็ทำให้พวกเราเป็นคนที่เห็นแก่ตัวด้วยเหมือนกัน หลายครั้งที่กิเลสและธาตุ 4 รวมหัวจมท้ายกันปั่นหัวพวกเราเล่น ทำให้พวกเราเจ็บปวดรวดร้าว อับอาย ขายหน้า สับสน และมึนงงไปหมด ว่าใครดีใครร้ายกันแน่ เจ้ากิเลสตัวนี้มันช่างร้ายกาจเสียนี่กระไร มันทำให้พวกเราชาวคนทั้งหลาย เตะต่อยกันเอง เบาะแว้งกันเอง ถึงขนาดต้องปลิดชีวิตกันเลยก็มี  

โอ้ย...มันช่างแสนเจ็บปวดและรวดร้าวยิ่งนัก ใครกันที่ผลิตสินค้าและบริการนี้ขึ้นมา อันมีแบรนด์เนมนามว่า “กิเลส” !!! 
พวกเราเพียรพยายามเสาะแสวงหาวิชาความรู้ ตามสถาบันต่างๆตั้งแต่เล็กจนโต แต่ก็ไม่มีสถาบันไหนช่วยให้พวกเราหลุดพ้นไปจากกิเลสอันมืดมิดเหล่านี้ได้...ผ่านไปสักพักพวกเราเริ่มสับสน ว่าการเกิดมาเป็นคนนั้น มันเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ที่เลิศด้วยสติและปัญญาจริงหรือเปล่า บางที...การเกิดมาเป็นควาย มันอาจจะมีความสุขมากกว่าก็ได้ เพราะควายไม่ต้องคิดอะไรมาก มันก็แค่กินกับนอนเท่านั้น เจ้าของๆมันจูงมันไปไหนมันก็พร้อมจะเดินตามไป ไม่มีเอะอะ ไม่มีเบาะแว้ง...มันช่างว่านอนสอนง่ายและสมบูรณ์พูนสุข จนคนอย่างพวกเราแทบจะอิจฉาริษยากันเลยทีเดียว 

เมื่อการเป็นควายมันช่างสุขสบายและง่ายเช่นนี้ แต่แล้วทำไม?...กระทรวงศึกษาธิการไทย ถึงไม่เคยประดิษฐ์คิดค้น หลักสูตรประเภท "สอนคนให้เป็นควาย"  ที่ว่านี้ขึ้นมา มีแต่สอนคนให้เป็น "คนอื่น" ทั้งๆที่มีเด็กและเยาวชนไทยส่วนหนึ่ง คิดและฝัน อยากจะเดินทางไปเป็นควายดูบ้าง กระทรวงศึกษาธิการไทยก็ได้แต่ทุบและสร้างใหม่ แต่วิชาการใหม่ๆเช่นนี้ก็ยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่กระนั้นก็ยังมีเด็กและเยาวชนไทยกลุ่มหนึ่ง ตะเกียกตะกายไปทำความฝันของตัวเองได้จนสำเร็จ ด้วยการเป็น "ควาย" สมใจปรารถนา 
ผมในฐานะที่เป็นควายตัวหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จดีแล้ว...จึงอยากจะขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการไทย สร้างหลักสูตร "ศาสตร์และศิลป์สู่การเป็นควาย" ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยมีวิถีชีวิตที่เป็นสุขมากยิ่งขึ้น 
เรามาเริ่มเรียนบทแรกกันเลยดีกว่า 


 คนสารพัดขี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติชม ด่าทอ สาปแช่ง บอกรัก