บทนำ
สู่คำว่า
"ควาย"
ก่อนที่คุณจะเกิดมาเป็นคนแล้วพัฒนาตัวตนไปสู่การเป็น
"ควาย" ผมจะพาคุณย้อนกลับไปสู่รังไข่
อันเป็นจุดกำเนิดแรกเริ่มของเราสองคน
ณ รังไข่ อันเป็นสถานที่ๆอึดอัด
คับแคบ ไม่มีพื้นที่ให้หยัดยืนและหายใจ หนำซ้ำ ณ พื้นที่แห่งนี้
หาได้มีสถานบันเทิงเริงรมย์ใดๆไม่ ไม่มีผับไม่มีเทค ไม่มีสาวนั่งดริ้งค์ ไม่มีแอลกอฮอล์ มันช่างเป็นสถานที่ที่เงียบเหงา
เปล่าเปลี่ยว และเดียวดายยิ่งนัก ไม่เพียงแค่นั้น อุณหภูมิที่อยู่ภายในพื้นที่แห่งนี้
ยังร้อน อบอ้าว ราวกับอยู่ในเตาอบเตาเผา ยังไงยังงั้น มันทำให้พวกเราชาวคนทั้งหลายทุกข์ทรมานเหลือเกิน
แต่กระนั้นพวกเราก็ยังดิ้นรนขวานขวาย หาทางมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้จนได้ ทั้งๆที่คู่ต่อสู้ของพวกเรานั้นมากจนไม่รู้ว่าจะนับยังไงไหว พวกเราต่างก็พากันยื้อแย่ง
เบียดเสียดกันจนได้รับชัยชนะมาในที่สุด...หารู้ไม่ว่า ณ รังไข่แห่งนี้นั้น
ก็ไม่ใช่สถานที่อันน่าอภิรมย์
แต่พวกเราก็ยังไม่ย่อท้อใช้ความอดทน
อดกลั้น ที่ติดตัวมาตั้งแต่ก่อนจุติแรกเกิด ฝ่าฟันความมืดมิด ความร้อนอบอ้าว
อัดแน่นไปด้วยสิ่งสกปรก ด้วยหวังว่า
จะเจอปากทางอันเป็นแสงสว่างรอคอยเราอยู่เบื้องหน้า...ซึ่งมันก็สำเร็จ ในที่สุดพวกเราก็ออกมาลืมตาดูโลกกันอย่างเต็มภาคภูมิ
เราได้พบกับแสงสว่างที่พวกเรารอคอยมานานแสนนาน
แต่เจ้ากรรม!
บนโลกที่เต็มไปด้วยแสงสว่างนี้
กับไม่ได้สวยงามอย่างที่พวกเราได้คิดเอาไว้ มันเต็มไปด้วยผู้คนที่มีกิเลส
มักง่ายและเห็นแก่ตัว แถมพวกเรายังพากันมีกิเลสเพิ่มขึ้นมาอีก
ทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้สุขสบายอย่างที่คิดเอาไว้
ต่างฝ่ายต่างก็ต่อสู้ดิ้นรนกันแบบไม่มีใครยอมใคร
ไม่เพียงแค่นั้น...ธาตุ 4
อันประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่พวกเราพกติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเกิด บวกกับธาตุ 4
ที่ประกอบขึ้นมาเป็นสิ่งแวดล้อมให้พวกเราได้อยู่อาศัย
ก็จับมือถือแขนกันอย่างสามัคคี สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเรามานักต่อนัก
แบบไม่มีอาการเตือนกันล่วงหน้าเลยทีเดียว
สิ่งเหล่านี้บีบบังคับให้พวกเราต้องผลิตกิเลสกันอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเป็นเกราะป้องกันพวกคนเห็นแก่ตัว โดยหารู้ไม่ว่า กิเลสที่อยู่ในใจของพวกเรานั้น
ก็ทำให้พวกเราเป็นคนที่เห็นแก่ตัวด้วยเหมือนกัน หลายครั้งที่กิเลสและธาตุ 4 รวมหัวจมท้ายกันปั่นหัวพวกเราเล่น
ทำให้พวกเราเจ็บปวดรวดร้าว อับอาย ขายหน้า สับสน และมึนงงไปหมด ว่าใครดีใครร้ายกันแน่
เจ้ากิเลสตัวนี้มันช่างร้ายกาจเสียนี่กระไร มันทำให้พวกเราชาวคนทั้งหลาย
เตะต่อยกันเอง เบาะแว้งกันเอง ถึงขนาดต้องปลิดชีวิตกันเลยก็มี
โอ้ย...มันช่างแสนเจ็บปวดและรวดร้าวยิ่งนัก
ใครกันที่ผลิตสินค้าและบริการนี้ขึ้นมา อันมีแบรนด์เนมนามว่า “กิเลส” !!!
พวกเราเพียรพยายามเสาะแสวงหาวิชาความรู้
ตามสถาบันต่างๆตั้งแต่เล็กจนโต
แต่ก็ไม่มีสถาบันไหนช่วยให้พวกเราหลุดพ้นไปจากกิเลสอันมืดมิดเหล่านี้ได้...ผ่านไปสักพักพวกเราเริ่มสับสน
ว่าการเกิดมาเป็นคนนั้น มันเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ที่เลิศด้วยสติและปัญญาจริงหรือเปล่า
บางที...การเกิดมาเป็นควาย มันอาจจะมีความสุขมากกว่าก็ได้
เพราะควายไม่ต้องคิดอะไรมาก มันก็แค่กินกับนอนเท่านั้น เจ้าของๆมันจูงมันไปไหนมันก็พร้อมจะเดินตามไป ไม่มีเอะอะ ไม่มีเบาะแว้ง...มันช่างว่านอนสอนง่ายและสมบูรณ์พูนสุข
จนคนอย่างพวกเราแทบจะอิจฉาริษยากันเลยทีเดียว
เมื่อการเป็นควายมันช่างสุขสบายและง่ายเช่นนี้
แต่แล้วทำไม?...กระทรวงศึกษาธิการไทย
ถึงไม่เคยประดิษฐ์คิดค้น หลักสูตรประเภท "สอนคนให้เป็นควาย" ที่ว่านี้ขึ้นมา มีแต่สอนคนให้เป็น
"คนอื่น" ทั้งๆที่มีเด็กและเยาวชนไทยส่วนหนึ่ง
คิดและฝัน อยากจะเดินทางไปเป็นควายดูบ้าง กระทรวงศึกษาธิการไทยก็ได้แต่ทุบและสร้างใหม่
แต่วิชาการใหม่ๆเช่นนี้ก็ยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่กระนั้นก็ยังมีเด็กและเยาวชนไทยกลุ่มหนึ่ง
ตะเกียกตะกายไปทำความฝันของตัวเองได้จนสำเร็จ ด้วยการเป็น "ควาย"
สมใจปรารถนา
ผมในฐานะที่เป็นควายตัวหนึ่ง
ที่ประสบความสำเร็จดีแล้ว...จึงอยากจะขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการไทย สร้างหลักสูตร
"ศาสตร์และศิลป์สู่การเป็นควาย" ขึ้นมาใหม่
เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยมีวิถีชีวิตที่เป็นสุขมากยิ่งขึ้น
เรามาเริ่มเรียนบทแรกกันเลยดีกว่า
คนสารพัดขี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น