อารัมภบท "ก่อนเขียน"
"ควาย" เป็นสัตว์เศรษฐกิจ
เป็นสัตว์ที่อยู่คู่ฟ้าเมืองไทยมาช้านาน
คนไทยสมัยก่อนถ้าไม่มีควายจะอยู่ยังไง
จะเอาอะไรกิน คุณเคยคิดเรื่องนี้บ้างไหม?
เพราะควายเป็นกำลังหลักในการไถนา หากไม่มีควายชาวนาก็ทำนาไม่ได้ เมื่อทำนาไม่ได้
ชาวนาก็จะไม่มีข้าวกิน ในขณะที่ข้าวนัั้น เป็นหนึ่งในปัจจัย
4 ซึ่งมีความสำคัญกับการดำรงชีวิตมาก
แต่เจ้ากรรม "ควาย"
กลับไม่ได้รับความยุติธรรม เท่าที่ควรนัก
เพราะถึงแม้ว่าควายจะเป็นกำลังหลักในการทำนา แต่ว่าควายก็ไม่เคยได้ลิ้มรสชาติอันโอชาของเมล็ดข้าวเลย
แม้แต่เมล็ด เพราะชาวนาอนุญาตให้ควายกินได้แค่กากเดนของต้นข้าวเท่านั้น
ในขณะที่ข้าวในนา ถูกขนย้ายไปทั่วทุกสารทิศ เพื่อให้คนในทุกระดับ
ได้เสวยสุขกับการอิ่มหมีพลีมัน นับตั้งแต่ชนชั้นสูง ชนชันกลาง ชนชั้นล่าง และชนชั้นต่ำ
แต่ควายก็ไม่เคยปริปากบ่น ยังคงเขี้ยวเอื้องต่อไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าควายคงมีปากที่ใหญ่และยาวมากเป็นพิเศษ แต่ถึงกระนั้น
ก็นับว่าควายเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ เป็นสัตว์ที่เลิศด้วยสติและปัญญา
สมควรได้รับการยกย่อง ให้เป็นแม่แบบของมนุษย์ได้เลยทีเดียว
ย้อนกลับมาสู่วันนี้ ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย
"ควาย" ก็มักจะถูกผู้คนเอาเปรียบจากอยู่เสมอ ควายถูกกดให้ตกต่ำ ถูกเหยียบย่ำซ้ำเติมให้จมตีน
ไม่มีโอกาสแม้แต่จะลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ หนำซ้ำ "คน" ยังนำคำว่า
"ควาย" มาใช้เป็นคำพูด บริภาษ ด่าทอกันเสียๆหายๆ ทำให้คนอย่างพวกเราปวดปวดแสบปวดร้อนไปทั่วทุกอณูรู้ขุมขน คำว่า "ควาย" คำเดียว ทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด
ทำให้คนหมดศรัทธาในตัวเอง ทำให้เพื่อนต้องแตกคอกัน ทำให้คนรักต้องหย่าร้างกัน
ทำให้นายจ้างไม่มีลูกจ้าง ทำให้ลูกจ้างไม่มีงานทำ และอื่นๆตามมาอีกมากมาย
ซึ่งผมถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติควายเลยสักนิด
หนังสือเล่มนี้จะทวงความยุติธรรมคืนให้กับควาย พร้อมกับบอกเล่าวิธีการที่จะพัฒนาตนเอง
ไปสู่การเป็น "ควาย"
ประโยชน์ที่ผู้อ่านจะได้รับ
1.เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น เพราะควายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ยิ่งพวกเราชาวไทยพร้อมใจกันเป็นควายได้มากเท่าไหร่ เศรษฐกิจไทยก็จะมั่นคงและยั่งยืนมากขึ้นเท่านั้น
2.คุณจะเป็น "ควาย" ที่มีความสุขที่สุดในโลกและจักรวาล อนันตจักรวาล
3.แต่ถ้าคุณยังยืนยันที่จะเป็น "คน"
อยู่ คุณจะเป็นคนที่ประเสริฐที่เลิศด้วยสติและปัญญา มาลองพิสูจน์ดู
คนสารพัดขี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น