วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

บทส่งท้าย การอำลาวงการบันเทิง

http://khonsarapadkee.weebly.com/


เมื่อคุณเปิดอ่านมาจนถึงหน้านี้ ผมคงจะรู้สึกใจหายและเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อคุณนึกอยากจะอำลาวงการบันเทิง...แต่ผมก็พอจะเข้าใจ และคงไม่ขัดขวางการตัดสินใจของคุณ บางทีมันอาจจะถึงจุดอิ่มตัว เบื่อหน่ายและคุณเองก็อยากจะริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ แต่ถึงยังไงผมก็ยังอยากเห็นคุณออกมาโลดแล่นอยู่บนหน้าจอเหมือนเดิมนะ  
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็น "สัจธรรม" พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงตรัสสอนอยู่แล้วว่า ทุกสรรพสิ่งนั้นล้วนเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน รวมทั้งตัวคุณด้วย ไม่มีใครที่จะอยู่เป็นดาวค้างฟ้าไปตลอดชีวิต ถ้าไม่จากเป็นก็ต้องจากตาย เหลือไว้เพียงชื่อเสียงเรียงนาม ให้ผู้คนได้จดจำเท่านั้น  
แต่ก่อนที่คุณจะอำลาวงการบันเทิง บทนี้ ผมจะขอพูดถึงการอำลาวงการบันเทิงด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้คุณได้เลือกดูว่าวิธีการใดที่เหมาะสมกับคนอย่างคุณ

1.อำลาให้อาลัย...วิธีการนี้คุณอาจจะจัดโต๊ะแถลงข่าว ให้สัมภาษณ์ หรือแม้แต่อัดคลิปวีดีโอลงยูทูบไปเลยก็ยังได้...หลังจากที่คุณสาธยายถึงความจำเป็นในการอำลาวงการบันเทิง ด้วยความรักความห่วงใยจากสื่อมวลชนและผู้คนที่คอยติดตามผลงานของคุณมาโดยตลอด งานนี้ก็อาจจะมีเหตุให้ต้อง "ดราม่าน้ำตาท่วมจอ" แต่ก็จะจบลงด้วยความประทับใจ ต่างฝ่ายต่างก็จดจำซึ่งกันและกันในทางที่ดี และแฟนคลับต่างก็ใจจดใจจ่อ รอคอยให้คุณกับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง มันคือการก้าวขาอำลาวงการบันเทิงอย่างสง่างามจริงๆ เข้าตำราที่ว่า "ไปลามาไหว้" เป็นต้น  

2.อำลาแบบไร้ร่องรอย...นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่คุณสามารถทำได้ และดาราหลายๆคนก็ใช้กัน คืออยู่ๆก็หายหน้าหายตากันไปเฉยๆ ไม่มีการบอกเล่าเก้าสิบถึงสาเหตุที่หายหัวไป ในขณะที่เหล่าบันดาแฟนคลับของคุณ ต่างก็รอคอยผลงานของคุณอย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ต้องรอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ บางทีพวกเขาก็อาจจะคิดได้ว่าคุณคงตายไปนานแล้ว จึงร่วมด้วยช่วยกัน ทำบุญกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลไปให้ วิธีการนี้ ก็นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน

3.อำลาแบบไม่ต้องอาลัย...การอำลาด้วยวิธีการนี้ คือการอำลาไปพร้อมกับธาตุแท้ในมุมมืดของคุณ มันคือการเซอร์ไพรส์ครั้งยิ่งใหญ่ ในประดาผลงานทั้งหมด ตั้งแต่ที่คุณเพียรสร้างมันมา เช่น เมาแล้วขับรถชนคนตาย ค้าขายยาเสพติด ทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ ท้องแล้วทำแท้ง ตรวจฉี่เป็นสีม่วง คลิปโป๊หลุดสุดหรรษา เป็นต้น  ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมโนขึ้นมา คุณอาจจะสนุกกับการกระทำของคุณ แต่เชื่อเถอะว่า แฟนคลับของคุณคงไม่สนุกและไม่ปลื้มไปกับคุณด้วยแน่ๆ งานนี้คุณต้องอำลาวงการบันเทิงไปสักพัก พร้อมทั้งสูญเสียฐานลูกค้าของคุณไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็อาจจะมีแฟนคลับบางส่วนที่รักและบริสุทธิ์ใจกับคุณจริงๆ พวกเขาคงไม่สนใจหรอกว่าคุณ จะเลวทรามต่ำช้ามายังไง ขอแค่ได้รักคุณคนเดียวก็พอ ก็นับว่าคุณโชคดีมากๆที่มีแฟนคลับที่เหนียวแน่นแบบนั้น  แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงจะสอนให้คุณได้รู้ว่า อยากรักคน อยากมีคนรัก ก็ต้องรักตัวเองให้เป็น แม้ว่าวงการบันเทิงจะหยิบยื่นโอกาสที่ดีให้กับคุณอีกครั้งในอนาคต แต่คุณก็จะมีความรู้สึกผิด ติดตัวไปจนตลอดชีวิต เพราะไม่มีอะไรที่เราทำลงไปแล้ว จะไม่ทิ้งร่องรอย จะมากจะน้อยมันก็ย้อนกลับมาอยู่ดี ความรู้สึกแบบนี้ไม่มีใครช่วยใครได้จริงๆ 

4.ลาแล้วลาลับไม่กลับมา...ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่จะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อมันเป็นสัจธรรม คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถึงวันนั้นผมคงจะเสียใจมากที่คุณจะอำลาวงการบันเทิงไปก่อนวัยอันควร แล้วยังเป็นการอำลาแบบไม่มีวันหวนกลับ แฟนคลับของคุณคงจะสูญเสียน้ำตากันเป็นวันละหลายคุถังเลยทีเดียว ซึ่งก็มีมูลเหตุด้วยกันอยู่ 2 อย่าง  
1.โรคภัยไข้เจ็บ  
2.อุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิต
มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ นี่แหละจึงเป็นเหตุที่ว่า ทำไมเป็นดาราแล้ว จึงควรดูแลตัวเองให้ดีๆ เพราะไม่มีใครอยากเห็นคุณเป็นอะไรไปก่อนน่ะสิ ต่อให้คุณยังไม่ตาย พวกเขาก็จะรอเสพผลงานของคุณ ไปจนกว่าคุณจะแก่เฒ่าไปเลยนั่นแหละ เพราะฉะนั้นข้อนี้ คุณต้องย้อนกลับไปดูหัวข้อก่อนหน้านี้อีกครั้งด้วย

คุณและโทษของการเป็นดารา  


เมื่อคุณได้เป็น "ดารา" และได้ใช้ชีวิตอยู่ใน "วงการบันเทิง" มาตั้งแต่ต้นจนจบขนาดนี้ คุณคงได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆมากมาย เกี่ยวกับความจริงของชีวิต ที่เกิดขึ้นกับคุณ ในระหว่างที่คุณได้เป็นดารา ว่ามันก็มีทั้งสุขและทุกข์ ไม่น้อยหน้าไปกว่าพวกกรรมกรก่อสร้างเลย แต่คุณก็มีความสุขและภาคภูมิใจในผลงานของตัวเองเป็นอย่างมาก...ซึ่งผมก็ยินดีด้วย คุณประสบความสำเร็จแล้ว บางทีด้วยวัย วัน และเวลา จะช่วยหล่อหลอมให้คุณได้เป็นสารานุกรมที่สามารถเคลื่อนที่ได้ในวงการบันเทิง บอกเล่าเก้าสิบถึงความเป็นมา ความเป็นอยู่ และความเป็นไป ให้กับผู้ที่มาใหม่ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ราวกับเป็นแม่คนที่สองของคลื่นลูกใหม่เหล่านั้น ที่ต่างก็อยากเข้ามาสานฝันในวงการบันเทิง  
แต่พวกเขาอาจจะไร้เดียงสาเกินไป จึงมัวแต่หลงระเริงกับภาพลักษณ์ที่เป็นอยู่ ในฐานะที่คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการ "ดารา" คือเป็นนักดาราศาสตร์ไปแล้วครึ่งหนึ่ง คุณก็มีโอกาสได้ถ่ายทอดความรู้ความสามารถให้กับผู้คนเหล่านั้นได้ ทำให้คุณยืนยิ้มได้อย่างเต็มภาคภูมิ ว่าคุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีคุณค่าคู่ควรกับวงการบันเทิง คุณจึงสอนพวกเขาให้เห็นคุณและโทษของการเป็นดาราดังต่อไปนี้   
1.อันเนื่องจากการ "ดารา" คือผู้ที่มีชื่อเสียง ก็ต้องรับผิดชอบไปตามระเบียบ "ดาราก็เหมือนกับตำรวจทหาร" ตำรวจทหารเมื่อทำความผิดก็ต้องได้รับบทลงโทษ มากกว่าประชาชนคนธรรมดาทั่วๆไป เช่นกัน ดาราเมื่อทำความผิดก็จะได้รับความเสื่อมเสียมากกว่าคนทั่วๆไปด้วยเหมือนกัน  
2.การเป็นดาราก็เหมือนกับการเป็น "นักธุรกิจ" นักธุรกิจอาจจะลงทุนด้วยเงินเพื่อหวังผลกำไร แต่ดาราอย่างคุณลงทุนด้วยชื่อเสียง หากว่าคุณประมาทไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดีๆ คุณอาจจะล้มไม่เป็นท่า ต่างจากนักธุรกิจที่เจ้ง เงินก็สามารถหามาใหม่ได้ ลงทุนใหม่ได้ตลอดเวลา แต่ชื่อเสียงของคุณมันคือชีวิตทั้งชีวิต คุณอาจจะไม่เหลืออะไรเอาไว้ให้ลงทุนอีกเลยก็ได้ ณ จุดนี้ ด้วยรักและติดตาม  
เมื่อผมเขียนมาจนเกือบจะถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ ผมยังขอยืนยันคำเดิมว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้าน "ดาราศาสตร์" แต่สิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมด ผมพูดไปตามความคิดเห็น ซึ่งสิ่งที่ผมเห็นนั้นอาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะผมเอาตาเนื้อของผมดู ไม่ใช่ตาทิพย์ ผมจึงไม่สามารถมองเห็นความจริงของชีวิตทุกอย่าง แต่คุณไม่จำเป็นจะต้องเชื่อ...แต่ขอให้เก็บข้อมูลทั้งหมดนี้ ไปวิเคราะห์ เจาะลึก และพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง ตามภูมิรู้ ภูมิธรรม และภูมิปัญญาของคุณเอง   
สุดท้ายนี้ ผมก็ได้แต่หวังว่า คำ "ดารา" ของคนที่ไม่ใช่ดารา จะทำให้คนที่อยากเป็นดารา ได้เป็น "ดารา" สมใจอยากนะครับ  
  


ใคร่ขอขอบคุณจาก...คนสารพัดขี้  
  


 ข้อมูลอ้างอิง 

ใบไม้ในกำมือ
http://www.dharma-gateway.com/ubasok/wasin/wasin-062-02.htm

ความดีสากล และคุณธรรมขั้นพื้นฐาน 3 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติชม ด่าทอ สาปแช่ง บอกรัก