วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

พรสวรรค์และพรแสวงสู่การเป็น "ครู"




พรสวรรค์สู่การเป็น "ครู" 

คำว่า "พรสวรรค์" คือผู้ที่มีคุณลักษณะที่จะเป็นครูได้ ซึ่งจะต้องเป็นคนที่มีความเข้มแข็งและมีจิตใจที่ละเอียดประณีต เพราะต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก การเป็นครูก็เหมือนกับการเป็นนักปั้นมืออาชีพ แต่เป็นงานปั้นคน ซึ่งต้องเล่นกับจิตใจของผู้ที่ถูกปั้นด้วย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่หากเกิดความผิดพลาด ดังนั้น...ผู้ที่จะเป็นครูจึงต้องมีคุณธรรม เสมือนเป็นอาวุธในการเสกสรรค์ปั้นแต่งจิตใจของคนให้งดงามขึ้น คุณธรรมที่ว่านั้นก็คือ พรหมวิหาร 4 อันประกอบไปด้วย  
1.เมตตา 2.กรุณา 3.มุทิตา4.อุเบกขา 
บุคคลที่มีคุณธรรมทั้ง 4 ข้อนี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด คือผู้ที่ได้ชื่อว่ามีพรสวรรค์ด้านการเป็นครู ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในโรงเรียน 

พรแสวงสู่การเป็นครู 

หากคุณได้ศึกษา "พรสวรรค์" สู่การเป็นครูแล้วพบว่า คุณเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์ หรือไม่มี "พรหมวิหาร 4" มาก่อนเลย คุณก็ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล เพราะการเป็นครูนั้น ไม่มีใครเป็นมาตั้งแต่เกิด ทุกคนล้วนแล้วแต่ผ่านการฝึกฝนกันมาทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณ "อยากเป็นครูจริงหรือเปล่า?"  
ถ้าคุณยังอยากเป็นครูอยู่ ก็มาศึกษาพรแสวงด้านนี้กันต่อเลย 

1.ความรู้ความสามารถ...ศาสตร์และศิลป์ในข้อนี้ ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องไปลงทุนเรียนสูง คอร์สและแสนสองแสน ไม่ต้องถึงขนาดนั้น แต่มันเป็นสิ่งที่คุณรู้ลึก รู้จริง รู้แม่นยำ และเกิดประโยชน์ แค่นี้คุณก็เป็นครูได้แล้ว เช่นเด็กแว้นข้างถนนมีความรู้เรื่องการซ่อมรถ เด็กแว้นคนนั้นก็สามารถเป็นครูได้โดยการนำความรู้ที่ว่านั้นไปถ่ายทอด ให้กับคนที่กำลังเจอปัญหาเรื่องซ่อมรถ เป็นต้น 

2.ความรับผิดชอบ...คือความน่าเชื่อถือ เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการยอมรับในสังคม คือ 1.ความสะอาด 2.ความเป็นระเบียบ 3.สุภาพนุ่มนวล 4.ตรงต่อเวลา ทั้งสี่ข้องนี้เป็นได้ทั้งวินัยและมารยาททางสังคม หรือผู้รู้ท่านอื่นอาจจะเรียกว่า ความดี คุณธรรม ก็ย่อมได้ 

3.ความเป็นผู้นำ...คือผู้ที่มีอิทธิพล เมื่อเราคิดที่จะเป็นครู ก็หนีไม่พ้นการเป็นผู้นำ ซึ่งผู้นำนั้นมีด้วยกันอยู่ 3 สถาน 
1.นำตัวเอง 
2.นำครอบครัว 
3.นำสังคม 

ตัวเอง...คือรู้จักคิดเอง พูดเอง ทำเอง ไม่ตามกระแส ไม่ยอมให้มีสิ่งอื่นใดมาขัดขวางความเจริญก้าวหน้า และความใฝ่ฝันของตัวเอง ทั้งนี้เราต้องรู้จักตัวเราเองก่อน ว่าเรามีจุดเด่นจุดด้อยด้านใดบ้าง แล้วพยายามปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้นตลอดเวลา 

ครอบครัว...คือรู้จักชักจูงสมาชิกในครอบครัว ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นต้นแบบและเป็นครูผู้สอน หากเกิดปัญหาขึ้นในครอบครัว ซึ่งถ้าเราเป็นผู้นำตัวเองไม่ได้ เราจะนำครอบครัวไม่ได้ ในที่นี้จะต้องรู้บทบาทและหน้าที่ของตัวเองด้วย 

สังคม...คือการนำพาสิ่งแวดล้อมตลอดจนประเทศชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งก็เป็นจุดที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝันที่จะไปยืนตรงจุดนั้น เพราะเป็นผู้นำสูงสุด ให้ความรู้สึกภาคภูมิและอิ่มเต็ม พร้อมทั้งชื่อเสียงที่จะขจรขจายไปทั่ว สร้างโอกาสที่ดีให้กับตนเองและครอบครัว 
ผู้นำทั้ง 3 สถานนี้ บางคนอาจจะมีทั้ง 3 ข้อ 1 ข้อ หรือ 2 ข้อ แต่การที่เราจะเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น ถ้าไม่มีอะไรที่เหนือกว่าคนอื่นเลยก็จะเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ควรจะมีอย่างแน่นอนสำหรับผู้ที่จะเป็นผู้นำ คือ 
1.ศีลธรรม 2.คุณธรรม 

คนสารพัดขี้ 
โปรดติดตามตอนต่อไป
https://www.facebook.com/khonsarapadkee
https://thestupidarticles.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติชม ด่าทอ สาปแช่ง บอกรัก